วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

สุดยอดมุมมอง ชมพระอาทิตย์ตกได้ จากในถ้ำที่ถ้ำพระนาง จ.กระบี่

                                                "...มุมมองพระอาทิตย์ตกจากในถ้ำ
                                                              ก็สวยได้ไม่เหมือนใคร
                                                   และต้องไปพิสูจน์คือพระอาทิตย์ตก
                                                                       ที่ถ้ำพระนาง..."

มุมอัศจรรย์มุมนี้ต้องเดินลึกเข้าไปจนสุดชายหาด อันเป็นที่ตั้งของถ้ำพระนาง ด้วยเป็นที่สถิตของพระนางอันศักดิืสิทธิ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ มุมมองนี้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด คือเมื่อเข้าไปอยู่ภายในถ้ำมองออกมาจะเห็นปากโพรงถ้ำมีหินย้อยลงมาเป็นฉากระย้าสวยงาม มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายในยามพระอาทิตย์ตก
จะเป็นมุมมองสวยงาม แปลกตา น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด : ช่วงพระอาทิตย์ตก คือประมาณ 18.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด : ฤดูร้อนราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด : ด้านในของถ้ำพระนาง







เส้นทางการเดินทาง จากตัวจังหวัดกระบี่ใช้ทางหลวงหมายเลข 4202 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4201 และ 4203 ถึงอ่าวพระนาง แล้วลงเรือที่อ่าวพระนางไปหาดถ้ำพระนางและถ้ำพระนาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่ ททท.สำนักงานกระบี่ โทร. 075-622163

                                                                                                          ที่มา http://www.sanook.com/

เที่ยวสนุก ดูความน่ารักของคนกับช้าง ที่ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง จ. สุรินทร์

มีสถานที่ไม่กี่แห่งในเมืองไทยที่เราจะได้เห็นคุณค่าอันมหัศจรรย์แห่งสายสัมพันธ์ระหว่างคนและช้างที่ผูกพันกันยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด และหนึ่งในนั้นคือ บ้านตากลาง จ. สุรินทร์ ถิ่นช้างเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่เราจะได้เห็นความผูกพันระหว่างคนกับช้าง รวมทั้งประเพณีและวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างเต็มอิ่ม จุใจ
   ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลางแห่งนี้ ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมการเลี้ยงช้างตามวิถีชาวกูยให้คนทั่วโลกได้รู้จัก และเข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างช้างกับชาวกูย มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันมาตั้งแต่อดีตกาล ชาวกูยมีวิถีการเลี้ยงช้างในแบบฉบับของตัวเอง แทบทุกบ้านเลี้ยงช้างไว้เหมือนคนในครอบครัว ชีวิตของพวกเขาผูกพันกับช้างอย่างเหนียวแน่นและลึกซึ้ง
ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง จ. สุรินทร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ช้าง ที่รวบรวมความเป็นมาเกี่ยวกับช้าง อุปกรณ์คล้องช้าง ข้อมูลเกี่ยวกับช้างเบื้องต้น ก่อนเจาะลึกสู่วิถีความผูกพันของชาวบ้านตากลางกับช้าง และยังได้ชมภาพการจับช้างอันน่าตื่นตาตื่นใจ ก่อนออกไปสัมผัสความสนุกจริงๆ ในหมู่บ้านตากลาง
ออกจากพิพิธภัณฑ์ต้องแวะไปดูความน่ารักแสนรู้ช้างที่แสดงความสามารถพิเศษได้หลากหลาย ทั้งเตะฟุตบอล วาดรูป ฯลฯ นอกจากจะทำให้เราหัวเราะเพลิดเพลินแล้ว เรายังมีโอกาสให้อาหารและเล่นกับช้างได้อย่างใกล้ชิดด้วย และถ้ามาแล้วอีกกิจกรรมหนึ่งที่ห้ามพลาดคือ นั่งช้างเที่ยวรอบหมู่บ้าน โขยกเขยกไปตามทางเดินรอบหมู่บ้านตากลาง ชมภาพวิถีชีวิตชาวบ้านที่เลี้ยงช้างในหมู่บ้าน ผ่านวัดป่าและสุสานช้างที่เห็นแล้วต้องตะลึงกับความรักที่พวกเขามีต่อช้าง เพราะสร้างได้งดงามไม่ต่างจากของคน ชมการทำกระดาษจากมูลช้าง ที่สวยงามจนเราลืมไปเลยว่า นั่นคืออึ๊ช้างนี่หว่า หรือจะแวะชมลูกช้างแฝด ทองคำกับทองก้อน ที่กำลังอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน ซึ่งเราสามารถป้อนอาหารจากมือเราให้เจ้าช้างน้อยได้ และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแบบใกล้ชิดติดขอบเลนส์อย่างที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการชมสาธิตพิธีเซ่นศาลประกำ ที่ต้องติดไปก่อนล่วงหน้าเท่านั้น หรือเรียนรู้การเป็นควาญช้างในวิถีชาวกูย ที่ต้องมาเที่ยวมาพักแบบโฮมสเตย์หลายๆ วัน หรือแวะเที่ยวตามกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี เช่น การจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ งานวันช้างไทย ในช่วงเดือนมีนาคม งานวันสงกรานต์ช้าง สนุกสนานเล่นน้ำกับช้าง ในช่วงเดือนเมษายน งานบวชนาคช้างในช่วงเดือนพฤษภาคม งานตักบาตรบนหลังช้างช่วงเข้าพรรษา และงานช้างสุรินทร์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี

ก่อนกลับอย่าลืมแวะอุดหนุนของที่ระลึกหน้า ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง ที่จำหน่ายในราคาย่อมเยาว์ อยากเห็นความน่ารักของช้าง ไปที่นี่ที่เดียว อิ่ม คุ้ม จุใจ ไม่แน่นะคุณอาจจะเปลี่ยนใจมาหลงรักช้างเหมือนกับเราก็เป็นได้...
ติืดต่อ: ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง ต.กระโพ อ. ท่าตูม จ. สุรินทร์
สอบถามรายละเอียด โทร. 0 4414 5050



ขอขอบคุณข้อมูลจาก: เที่ยวสนุก สนุกตามวิถีช้าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ฝ่ายส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยว ฝ่ายบริการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เรียบเรียง: กันต์ ณ ปกรณ์
ภาพ: ธนปกรณ์ สุขสาลี

:: อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ::

      ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพังเหยในเขต   ต.บ้านไร่  อ.เทพสถิต  จ.ชัยภูมิ จากกรุงเทพฯ   ใช้เส้นทางสระบุรี - ชัยบาดาล   ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 205   เส้นทางชัยบาดาล - เทพสถิต - ชัยภูมิ     ก่อนถึงอำเภอเทพสถิต จะมี ทางแยกซ้ายมือไปป่าหินงาม อีก  29  กิโลเมตร     หากเดินทางเส้นทางจาก จ.นครราชสีมา   ก็จะใช้เส้นทางนครราชสีมา - เพชรบูรณ์     โดยจะวิ่งผ่าน ต.หนองบัวโคก    ผ่านบ.คำปิง เข้าสู่อำเภอเทพสถิต     และเลี้ยวขวาบริเวณ สามแยกเพื่อจะไปในเส้นทาง เทพสถิต - ซับใหญ่      และหากท่านมาจากตัว เมืองชัยภูมิ ก็ต้องใช้เส้นทาง ระเหว - ซับใหญ่ - เทพสถิต     เมื่อออกจากตัว กิ่งอ.ซับใหญ่จะถึงทางแยกขึ้นอุทยานฯ ก่อนที่จะถึง อ.เทพสถิต...

<< ป่าหินงาม >>
             "ป่าหินงาม" หรือ   (ลานหินงาม)    อยู่ทางทิศตะวันตกของที่ทำการอุทยานฯ ทั่วบริวเวณเรียงรายไปด้วยหินก้อนน้อย ใหญ่ รูปร่างแปลก ๆ มากมายในพื้นที่กว่า 10 ไร่ เป็นลานหินซึ่งเกิดจากการกัดเซาะดิน  และเนื้อหินทรายมานานนับลานปี   วาง เรียงรายสลับซับซ้อน  อยู่เต็มลานบ้างก็มีรูปรา่างเหมือนกับถ้วยฟุตบอลโลก  บ้างก็เหมือนกบเรด้า  และรูปต่าง ๆ แล้วแต่จะ จินตนาการ  แต่เมื่อดูแล้วชวนให้เกิดความเพลิดเพลินใจเป็นยิ่งนัก...
<< ทุ่งดอกกระเจียว >>
                  "ทุ่งดอกกระเจียว"  เกิดจากดอกกระเจียวป่า หลากหลายสายพันธุ์  ที่พร้อมใจกันขึ้นรายรอบบริเวณ ของอุทยานฯและจะมีอยู่บริเวณหนึ่งใช้พื้นที่หลายไร่     ที่จะมีดอกกระเจียวขึ้นอย่างหนาแน่นจนกลายเป็นทุ่ง    ซึ่ง เวลามองดูก็จะเห็นเป็นสีชมพูปนขาว   และมีสีเขียวของลำต้ันและก้านใบเป็นสีเขียวสด   ประกอบกับสีเขียว ของหญ้าทีขึ้นมาแซม ทำให้ทุ่งกระเจียว เขียวขจี สวยงามเหมือนกับทุ่งในทรวงสวรรค์เลย              โดยในช่วงฤดูฝน เริ่มต้นเดือนมิถุนายน     ถึง ปลายเดือนกรกฎาคม ของทุก ๆ ปี    ต้นกระเจียวจะออก ดอกสวยงามตระการตาไปทั่วผืนป่า  จัดได้ว่าเป็น   "นางเอกของอุทยานฯ"  ก็ว่าได้ ทั้งนี้เพราะดอกกระเจียว จะไม่มีให้เห็นเลยนอกเสียจากในช่วงเวลาที่ว่านี่เท่านั้น...
<< จุดชมวิวสุดแผ่นดิน >>
             "สุดแผ่นดิน"  อยู่ทางด้านทิศเหนือของที่ทำการอุทยานฯ  เป็นแนวหน้าผาและชะง่อนหิน   เป็นจุดสูงสุดบนเทือกเขา พังเหย  สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ  846 เมตร  เกิดจากการดันตัวของแผ่นดินภาคกลาง  (ฉานไทย)  ซุกเข้าไปใต้แผ่นดิน อีสาน (อินโต - ไซน่า)  ทำให้เกิดแผ่นดินที่ยกตัวสูงชัน  เรียกว่า  "สุดแผ่นดิน"  คือเขตรอยต่อของ  3 ภาคอันได้แก่
             1.  แผ่นดินซีกทางอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ชัยภูมิ  (ภาคอีสาน)
             2.  แผ่นดินซีกทางตะวันตกของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ลพบุรี  (ภาคกลาง)
             3.  แผ่นดินซีกทางเหนือของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.เพชรบูรณ์  (ภาคเหนือ)ซึ่งมีความสวยงาม อากาศเย็นสบาย  และในตอนเช้า ๆ จะมีกลุ่มหมอกลอยผ่านหน้าเราไป  เหมือนกับหยอกเย้ากับผู้มาเยือนเลย
   ใกล้ถึงหน้า  "เทศกลาล ท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน"  ประจำปีี 2552 แล้วนะครับ เหลืออีกไม่กี่วัน ที่เราจะได้ชื่นชมความสวยงามของดอกกระเจียว      ซึ่งจะ็บานสะพรั่ง สวยงามจริง ๆ ครับ...ผมก็เป็นอีก คนหนึ่ง หล่ะ ที่ชื่นชม ความงามของสถานที่ท่องเที่ยว   แห่งนี้ มาเป็นระยะเวลาช้านานโข ปีนี้ ถ้าฝน ฟ้า ตกต้องตามฤดูกาล   ที่มันควรจะเป็น      เหล่าบรรดาเจ้าดอกกระเจียวน้อย-ใหญ่ซึ่งกบดานอยู่ใต้พื้นแผ่นดินนับแรมปี  ก็จะมีโอกาสโผล่ขึ้นมาอวดโฉมอัน   สะโอดสะอง ยังกะมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ด     ที่กำลังจะประกวด กันเลยทีเดียวยิ่ิง ถ้าฝนตกชุกหน่อย       พื้นดินเปียกชุ่มเจ้าดอกกระเจียวที่แสนสวยของเราก็จะขึ้น เยอะเต็มท้องทุ่งเลย  มองไปทางไหนก็จะมีแต่สีเขียวชะอุ่ม และสีชมพูแกมขาว  สวยอย่าบอกใครเลย     ถึงแม้ว่าปีกลาย ดอกกระเจียว      จะ มาช้าไปซักนิดนึง แต่เจ้าดอก กระเจียวก็เริ่มทะยอยชูช่อ ยันดอกออกมาให้เราๆ ท่านๆ ได้ยลโฉมกันแล้ว    และสำหรับ ท่านใด ที่ยังไม่เคยมาเยี่ยมเยือนทุ่งดอก กระเจียวธรรมชาติแ้ห่งเดียว ในโลกปีนี้ก็อย่าพลาดนะครับ ตัดสินใจช้า  ท่านอาจจะพลาด โอกาสดี ๆ ที่หนึ่งปีจะมีแค่ครั้งเดียว เท่านั้น ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งทั้งสองที่ ก็มี ความ แตกต่างกันไปใครชอบความสะดวก



จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมาและหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ขอเชิญทุกท่านร่วม "หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว" งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงามจังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2554 ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม  2554 ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงามอำเภอเทพสถิต และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ

            ที่มา http://www.sanook.com/

มหัศจรรย์สามพันโบก อุบลฯ

สามพันโบก หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวของอุบลราชธานีที่วันนี้ทุกคนต้องมาเยือน โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมิถุนายนของทุกปี หลังสายน้ำในแม่น้ำโขงลดลงจนเผยให้เห็นเกาะแก่งหินที่ถูกกระแสน้ำขัดเกลาจนเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติกินอาณาบริเวณกว้างไกลสุดตายตา ราวกับเมืองแห่งความลับใต้บาดาล ดูสวยงามยามต้องแสงสีทองของดวงตะวันไม่ว่าจะเป็นยามเช้าหรือเย็นย่ำ ล้วนตรึงทุกสายตาให้จดจ่อและดื่มด่ำกับภาพนั้นยาวนานที่สุด
คงไม่ผิดนักหากเปรียบที่นี่ดัง "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย" ด้วย "โบก" อันเกิดจากกระแสน้ำโขงได้กัดเซาะหินทรายจนกลายเป็นหลุมเป็นแอ่งมากมายหลายขนาด กลายเป็นผลงานสร้างสรรค์จากธรรมชาติอันไพศาลชื่อว่า "สามพันโบก" ซึ่งจะพาทุกจินตนาการหลุดลอยไปกับสายน้ำ พร้อมเรื่องราวตำนานสามพันโบกที่มีมีอยู่หลายเรื่องให้ได้พิศวง อาทิ ตำนานหินหัวสุนัขตรงทางเข้าซึ่งจะพบหินคล้ายหัวสุนัข ตำนานหาดหินสีหรือทุ่งหินเหลื่อม ตำนานปู่จกปู อันเป็นหลุมโบกที่เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน แม้ไม่มีบทสรุปต่อตำนานเหล่านี้ หากนักท่องเที่ยวก็ได้สรุปร่วมกันแล้วว่าที่นี่คือความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติโดยแท้
การลัดเลาะไปเที่ยวสามพันโบกอย่างใกล้ชิดต้องอาศัยการล่องเรือที่พาลัดเลาะไปยังจุดสำคัญๆ มากมาย อาทิ ปากบ้องเป็นจุดแคบสุดของแม่น้ำโขง วัดได้ 56 เมตร แก่งสองคอน เกิดจากเกาะหินหัวพะเนียงวางกลางลำน้ำ้ำโขง ทำให้แม่นí้ำโขงแยกออกเป็น
สองสายหรือสองคอน หาดสลึงเป็นหาดทรายสวยงามเหมาะพักผ่อนหย่อนใจริมฝั่งน้ำมูล ผาหินศิลาเลขซึ่งเป็นเหมือนรอยจารึกอดีตสมัยฝรั่งเศสรุ่งเรือง และหาดหงส์ซึ่งเป็นเนินทรายริมน้ำโขง ขนาดกว้างใหญ่ไพศาลโดยเฉพาะในช่วงอาทิตย์ใกล้ลับฟ้า หาดหงส์จะทอประกายความงดงามเหนือลำน้ำโขงด้วยแสงสีทองที่ทาบทอลงมา
การเดินทาง: อ.โพธิ์ไทร  จ. อุบลราชธานี




                                                                                                             ที่มา http://www.sanook.com/

4 รีสอร์ตสุดน่ารัก น่าไปพักที่ ‘เชียงคาน‘

มืองเชียงคานในปัจจุบันเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ในสายตาของนักท่องเที่ยว เป็นชุมชนที่คงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาได้ยาวนานกว่า 100 ปี มีนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวเต็มไปหมด อาจจะด้วยเพราะเมืองเชียงคานนี้เงียบสงบ บรรยากาศดี คนที่นี่ก็เป็นมิตร อัธยาศัยดี และการไปเที่ยวที่เชียงคานก็ไม่แพงจนเกินกำลัง เพราะนอกจากราคาอาหารระดับชาวบ้านแล้ว ที่พักก็ยังน่ารักอบอุ่นและราคาเป็นกันเอง
1. เถ้าแก่ลาว
เถ้าแก่ลาวเกิดจากการรวมตัวของเพื่อน 2 คน ที่มีเชื้อสายจีน-ลาว และคนไทย จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเองบ้านพักแห่งนี้บริการห้องพัก 3 ห้อง มี 2 ห้องติดแม่น้ำโขง ส่วนอีกห้องอยู่ติดถนน ด้านล่างเปิดเป็นร้านกาแฟเวียดนาม ชา และโกโก้ อินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่เคยสัมผัสวิถีชีวิตของเมืองเชียงคาน ลองหาโอกาสไปเยือนแล้วคุณจะหลงเสน่ห์เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงแห่งนี้"
ที่ตั้ง: 92 ม.1 ระหว่างซอย 4-5 ถนนชายโขง ต.เชียงคาน อ. เชียงคาน จ.เลย โทร. 08 1311 9754


2. มาเลยเด้อ เกสต์เฮ้า
สัมผัสความคลาสสิกของบ้านไม้อันเงียบสงบเป็นส่วนตัว พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ บริเวณถนนคนเดียว รอตักบาตรข้าวเหนียวได้เลยที่หน้าบ้าน มีมุมอ่านหนังสือและพูดคุย ให้เลือกหลายมุมตามอำเภอใจ ห้องนอน ห้องน้ำสะอาดสะอ้าน บริการชา กาแฟ โอวัลติน และน้ำดื่มที่ดื่มได้ทั้งวันไม่มีจำนวนจำกัด ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเชียงคาน เช่น วัดศรีกุล ไม่ต้องเดินไกล (คลิกดูภาพเพิ่มเติม)
ที่ตั้ง: 291/2 ถนนชายโขง ต.เชียงคาน อ. เชียงคาน จ.เลย โทร. 08 6404 4372

3. สองผัวเมีย เกสท์เฮ้าส์  & แฮนดิคราฟท์ 
เป็นทั้งร้านขายของที่ระัลึก ขายสินค้า OTOP ของเมืองเชียงคานและของ จ. เลย พร้อมเป็นที่พักแรม บรรยากาศอบอุ่นขนาด 4 ห้องพัก ภายในร้านและห้องพักตกแต่งด้วยศิลปะล้านนา ใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก สวนหลังบ้านกว้างขวาง ให้เป็นมุมพักผ่อน ทานข้าว บริการชา กาแฟ โอวัลติน และน้ำดื่ม ที่สามารถดื่มได้ตลอดวันไม่จำนวน บริการอินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี จักรยานที่สามารถนำไปปั่นชมเมืองได้ตลอดเวลา ตลอดจนครัวซึ่งสามารถประกอบอาหารได้ด้วยตนเอง

ที่ตั้ง: 241 ม.1 ถนนชายโขง ระหว่างซอย 8-9 ตรงข้ามโรงแรมสุขสมบูรณ์ ต.เชียงคาน อ. เชียงคาน จ.เลย โทร. 08 1311 9754 หรือ http://www.songphuamia.com/


4. The Old Chiangkhan Boutique Hotel 
ภูมิใจ นำเสนอทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ภายใต้เอกลักษณ์เฉพาะซึ่งผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย เข้ากับสภาพแวดล้อมแบบดั้งเดิมของเชียงคาน อาทิ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์สัญญาณดาวเทียม ฝักบัว ระเบียง จักรยานให้เช่า อินเตอร์ไร้สาย เป็นต้น
ที่ตั้ง: 288 ม.2 ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย


                                                                                           ที่มา http://www.sanook.com/

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

30 ทิปเล็กน้อย ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

1. ในขณะที่คุณกำลังจะ Restart เครื่องใหม่ ก่อนที่จะกดปุ่ม OK ให้คุณกด Shift ค้างไว้ จะทำให้คุณ Restart ได้เร็วขึ้น

2. ในบาง Web Site หากคุณกด Ctrl ค้างไว้ และเลื่อน Scroll ที่ Mouse จะทำให้ตัวอักษรของ Web Site นั้นใหญ่ขึ้น

3. หากกดปุ่ม Refresh หรือ F5 แล้วยังเป็นข้อมูลเดิม ลองกด Ctrl + F5 รับรองจะได้ข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดแน่ๆ

4. คุณสามารถเปิดไฟล์ Tips.txt ขึ้นมาเพื่ออ่านเทคนิคต่างๆ ได้ ซึ่งไฟล์นี้จะอยู่ใน c:\\windows ของคุณ

5. ในระหว่างที่คุณกำหลังใช้งาน IE อยู่นั้น สามารถกดปุ่ม F4 เพื่อเป็นการเปิดดู URL List ในช่อง Address ได้เลย

6. การกดปุ่ม Esc ระหว่างการใช้ IE จะทำให้ IE ของคุณนั้นหยุดโหลดได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่ม Stop

7. ระหว่างการใช้ IE สามารถกดปุ่ม Alt + D หรือ Ctrl + Tab เพื่อเข้า Address bar อย่างเร็วได้

8. คุณสามารถเพิ่มความเร็วให้กับ Internet ได้โดยทำการถอดสายเครื่องโทรศัพท์ ที่มีการต่อพ่วงอยู่กับสายที่ใช้ต่อ Internet ออก

9. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า welcome กด Enter เพื่อเปิดหน้าต่างต้อนรับของ Windows ได้

10. ที่ Notepad หรือ ICQ หากคุณลืมเปลี่ยน Mode ภาษา ให้กดปุ่ม Ctrl + Back Space เพื่อแก้คำที่พิมพ์ผิดไปแล้ว

11. คุณสามารถ เปิด Folder Desktop อย่างรวดเร็ว โดย Start -> Run พิมพ์จุด (.) ลงไปแล้วกด Enter

12. ใน IE สามารถกด Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้า Page ลงได้ ส่วนเลื่อนขึ้นคือ Shift + Space Bar

13. ใน Windows คุณไม่สามารถ สร้าง Folder ที่ชื่อ \"con\" ได้

14. ใน IE ที่ช่อง Address ปุ่ม Ctrl+Enter สามารถช่วยคุณในการพิมพ์ URL ได้เร็วยิ่งขึ้น

15. การกด Ctrl ค้างเอาไว้ ตอนเวลา BOOT เครื่อง จะทำให้คุณไม่พลาด Startup Menu

16. คุณสามารถปิดนาฬิกาที่ Taskbar ได้ โดยคลิกขวาที่ Task bar > Properties > เอาเครื่องหมาย Show Click ออก

17. หากคุณกด F11 ใน Windows Explorer จะช่วยให้มีการทำงานที่สะดวกขึ้น

18. ใน ICQ การส่ง Message หากคุณกด Ctrl+Enter จะสะดวก กว่าการ Click Mouse ที่ปุ่ม send

19. คุณสามารถกด F2 เพื่อ ใช้ในการเปลี่ยนชื่อ Icon ต่างๆ ได้

20. การกด F5 ใน NotePad จะเป็นการแทรก เวลา และวันที่ ปัจจุบัน

21. การกด Windows + E จะเป็นเปิด Windows Explorer ขึ้นมา

22. เปิด System Properties อย่างรวดเร็วคือการกด Window + Pause Break

23. การย่อยทุกๆ หน้าต่างที่เปิดใช้งาน ให้ยุบไปให้หมด คือการกด Window + D ถ้าจะขยายคืนมาอีก ให้กดซ้ำ

24. การเคาะวรรคในโปรแกรม Dreamweaver คือ Shift + Ctrl + Space Bar ส่วนการเว้นบรรทัดคือ Shift + Enter

25. การลบไฟล์แบบ ไม่เก็บไว้ใน Recycle Bin คือการกด Shift + Delete

26. การกด Shift ค้างไว้ เวลาใส่แผ่น CD-Rom จะเป็นการไม่ให้มันเปิด Autorun ของแผ่น CD-Rom นั้นขึ้นมา

27. การ Restart เครื่องอย่างเร็ว คือไปที่ Start -> Shut Down... -> Restart จากนั้น ก่อนที่จะ OK ให้กด Shift ค้างเอาไว้

28. ในระหว่างใช้ Browser คุณสามารถกดปุ่ม Space Bar เพื่อเลื่อนหน้าลง และ Shift + Space Bar เพื่อนเลื่อนหน้าขึ้นได้

29. กด Shift + คลิก จะเป็นการเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่ โดยไม่ต้อง back กลับ

30. คุณสามารถ ไปที่ Start -> Run และพิมพ์ว่า hwinfo /ui กด Enter เพื่อดูรายงานต่างๆ ของ HardWar

Miss Tiffany 2011 เวทีประกวด มิสทิฟฟานี่ สาวประเภทสอง

Miss Tiffany 2011 เวทีประกวดสาวประเภทสอง สวัสดีชาว Men.Mthai ครับ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2554 ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงข่าวจัดงาน MissTiffny 2011 งานประกวดสาวประเภทสอง ซึ่งเป็นรอบแถลงข่าว พร้อมรับสมัครวันสุดท้าย ต้องขอบอกว่าผู้สมัครหลายๆ คนของปีนี้ สวยน่ารัก ไม่บอกไม่รู้จริงๆ ว่ามีคำนำหน้าว่านาย อันนี้ไม่ได้พูดเว่อร์เกินจริง ไม่เชื่อก็ลองไปดูภาพบรรยากาศกันได้เลย !!











ที่มา http://men.mthai.com/

ประวัติ ปอย ตรีชฎา



กลายเป็นประเด็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกแล้ว สำหรับ ชื่อ “ปอย-ตรีชฎา เพชรรัตน์” สาวประเภทสองที่สวยที่สุดในโลก ก่อนหน้านี้ชื่อของ “ปอย” ก็เป็นที่รู้จักกันมาก แต่ล่าสุดเธอถูกรับเชิญไปเป็นดาราปริศนาให้ “หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม” ทายในรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” แถมพิธีกร “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” ยังจับเธอมานั่งพูดคุย และถ่ายแฟชั่นริมสระน้ำ ก็ทำให้เธอกลายเป็นประเด็นให้ผู้คนพูดถึงอีก โดยเฉพาะประเด็นที่หมอกฤษณ์คอนเฟิร์มว่า เธอทำศัลยกรรมมาเยอะมากๆ ทั้ง จมูก หน้าอกรวมถึงอวัยวะซ่อนเร้นอีกด้วย (ซึ่งก่อนหน้าที่เธอก็เคยออกมาเปิดเผยแล้วว่า เธอแปลงเพศแล้ว)
อย่างไรก็ตามพูดถึงชื่อของ “ปอย ตรีชฎา” แล้วทำให้ หลายคนอยากรู้จักเธอมากขึ้น วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปสัมผัสตัวตนของเธอกันค่ะ…
“ปอย- ตรีชฎา” เจ้าของตำแหน่ง “มิสทิฟฟานี่ 2004″ (Miss Tiffany’s Universe 2004) และ “มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน 2004″ (Miss International Queen 2004) มีชื่อทางการ ศักดิ์นรินทร์ มาลยาภรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2528 ขณะนี้อายุ 23 ปี เกิดที่จังหวัดพังงา แต่ไปเติบโตที่จังหวัดภูเก็ต มีเชื้อสายจีนเต็มตัวจึงทำให้เธอตัวขาวจั๋วน่าเจี๊ยะ
ปัจจุบัน “ปอย” กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (AssumptionUniversity) ด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะว่าเธออยากเป็นอัยการของต่างประเทศ และที่สำคัญเธออยากจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสิทธิของเพศที่สาม โดยเฉพาะเรื่องคำนำหน้า เพราะเวลาเธอไปต่างประเทศมักไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าเธอเป็นผู้ชาย!!! และกว่าจะเข้าประเทศได้ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมาย ทำให้เธอเห็นความสำคัญข้อนี้
เมื่อครั้งวัยเยาว์ตอนอายุ 4 ขวบ ปอยก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แอบหยิบกระโปรงของลูกเพื่อนแม่มาใส่ จนโดนแม่ตี เพราะแม่กลัวว่าลูกชายจะผิดเพศ แถมยังพยายามบังคับเล่นให้กีฬาแมนๆ ทั้งเตะฟุตบอล เอาหุ่นยนต์มาให้เล่น ตอนนั้นปอยก็เล่นให้แม่สบายใจ แต่ใครจะรู้ว่าในห้องนอนของเธอ มีตุ๊กตาบาร์บี้ซ่อนไว้ แต่แล้ววันหนึ่งความก็แตกจนได้ เมื่อแม่มารู้ความจริงว่าเธอมีจิตใจเป็นหญิง แต่แม่ก็ทำใจยอมรับได้ เพราะเธอบอกว่า “มันเป็นเองตามธรรมชาติ หนูไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้”
ปอย บอกว่า ที่เธอมีวันนี้ได้เธอคิดว่าครอบครัวมีส่วนสำคัญมาก เพราะแม่เข้าใจ … ต่อมาเธอจึงขออนุญาตแม่แปลงเพศจากชายเป็นหญิง เมื่อตอบจบชั้น ม.6 มันเลยทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเหมือนเป็นผู้หญิงตั้งแต่นั้นมา
จนเมื่อปี 2547 (2004) เธอสนใจอยากเข้าประกวดสาวประเภทสอง หรือที่รู้จักกันว่า “มิสทิฟฟานี่ 2004″ จึงตัดสินใจเข้าประกวด และด้วยรูปร่างหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้ม ผิวพรรณผุดผ่องเกินหน้าเกินตาผู้หญิงแท้ๆ ทำให้เธอสามารถคว้าตำแหน่งมาครองได้สำเร็จ และเมื่อมีโอกาสเป็นตัวแทนสาวประเภทสองจากประเทศไทย ไปประกวด “มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน 2004″ เธอก็สามารถคว้ามงกุฏมาครองได้สำเร็จเช่นกัน พร้อมประกาศศักดาว่า “สาวเทียมจากประเทศไทยก็สวยใช่เล่น”
จากนั้นงานในวงการบันเทิงก็วิ่งเข้าใส่ จนเธอตั้งตัวไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา และแสดงละคร ทำให้หลายคนมองดูว่าเธอเป็นสาวมั่น กล้าแสดงออก แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว เธอเป็นคนเซนซิทีฟมาก ต้องการความอบอุ่น เป็นคนกลัวอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งในเรื่องความปลอดภัย กลัวผู้คน เพราะเธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ เพียงคนเดียว ทำให้เธอกลัวผู้ชายมากขึ้น
ส่วนเรื่องความรักเธอบอกว่า เมื่อก่อนมีหนุ่มๆ ตามจีบเยอะ ทั้งรู้และไม่รู้ว่าปอยเป็นผู้หญิงไม่แท้ แต่ตอนนี้เสียใจกับหนุ่มๆ ทั้งหลายด้วยเพราะปอยมีแฟนแล้วค่ะ . . .
“เขาก็เป็นผู้ชายน่ารัก เข้าใจและรับเราได้ในสิ่งที่เราเป็น ปอยว่าจุดนี้สำคัญ เพราะความรักครั้งที่ผ่านๆ มาปอยไม่มีอิสระเลย เพราะอดีตแฟนปอยหวงมาก ปอยก็อยู่อย่างอึดอัด เขาไม่ยอมให้เราไปไหนทั้งๆ ที่เขาก็อยากจะออกไปแต่ก็ไม่ไป เฝ้าเราตลอดเวลา ออกไปข้างนอกก็โทรตาม จนสุดท้ายเราก็เลิกกัน ปอยคิดว่าเรามีโอกาสที่จะได้ทำอะไรอีกตั้งเยอะแยะ”
พร้อมกันนี้ “ปอย” ยังเปิดเผยอีกว่า เธออยากมีครอบครัวอบอุ่นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ อยากมีลูก … หวังพึ่งวิทยาศาสตร์ทำลูกให้ ไม่จำเป็นต้องมีพ่อ มีคนบอกปอยว่าที่ญี่ปุ่นทำได้ถ้าจ่าย 2 ล้าน แค่ 2 ล้านบาท กับลูกคนเดียว ปอยยอมได้
ก็แหม…ทั้งสวย ทั้งน่ารักขนาดนี้ ใครไม่รู้จักหลงเสน่ห์เธอ (จริงไหม)

                                                                                        ที่มา โดยกระปุกดอทคอม

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

อังกฤษจัดอันดับ "10 สถานที่น่าเที่ยว - น่าผิดหวัง

ไปเที่ยวอังกฤษสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอยากไปชม แต่ต้องผิดหวังไปตามๆ กันเมื่อได้ไปดู ต้องเป็น "สโตนเฮนจ์" กลุ่มหินที่เรียงกันอยู่กลางทุ่ง

นักท่องเที่ยวที่ผิดหวังนั้น ไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างชาติแต่กลุ่มเดียว แต่รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเองด้วย เพราะจากการสำรวจความเห็นของบริษัท "เวอร์จิ้น ทราเวล อินชัวแรนช์" ถึง 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนมากที่สุดในอังกฤษ, 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าผิดหวังที่สุดในอังกฤษ, 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปชมมากที่สุดในโลก และ 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าผิดหวังที่สุดในโลก นั้น "สโตนเฮนจ์" กลุ่มหินปริศนาอายุ 5,000 ปี ที่เมืองวิลต์เชียร์ ติดอันดับ 1 ของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าผิดหวัง

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่ "น่าไปเยือนมากที่สุดในอังกฤษ"

                                                                          ข้อมูลจากข่าวสด

                                                                        ขอบคุณภาพสวยๆ จาก

                                                                        http://www.inetours.com/

1.สโตนเฮนจ์ เมืองวิลต์เชียร์
2."แองเจล ออฟ เดอะ นอร์ธ" เมืองเกตสเตต รวมปฏิมากรรมแบบโมเดิร์นของ "แอนโทนี่ กอมลีย์"
3."แบล็กพูล ทาวเวอร์" เป็นหอที่สร้างจากเหล็ก สูง 158 เมตร สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากหอไอเฟล
4."แลนส์เอนด์" เมืองคอร์นวอล ตั้งอยู่ปลายสุดของแหลมเพนวิธ
5.น้ำพุเพื่อรำลึกถึงเจ้าหญิงไดอาน่า กรุงลอนดอน
6.ชิงช้าสวรรค์ "ลอนดอนอาย"
7."ไบรต์ตันเพียร์" สวนสนุกริมทะเล
8.พระราชวังบักกิ้งแฮม กรุงลอนดอน
9.หน้าผาไวต์คลิฟ แห่งโดเวอร์
10.หอนาฬิกาบิ๊กเบน กรุงลอนดอน

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนมากที่สุดในโลก

1.เมืองเพตรา ประเทศจอร์แดน
2.แกรนด์คะแนล ประเทศอิตาลี
3.ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่ามาไซมาร่า ประเทศเคนยา
4.สะพานซิดนีย์ฮาเบอร์
5.หุบเขาทาโรโกะของไต้หวัน
6.คิงส์แคนยอน ประเทศออสเตรเลีย
7.ถ้ำแคปปาด็อกเซีย ประเทศตุรกี
8.ทะเลสาบติติคาคา ประเทศเปรูและโบลิเวีย
9.หาดเคเบิ้ลบีช เมืองบรูม ประเทศออสเตรเลีย
10.เส้นทางรถไฟสายยุงฟราวยอร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Jungfraujoch railway

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าผิดหวังที่สุดในโลก ได้แก่

1.หอไอเฟล กรุงปารีส
2.พิพิธภัณฑ์ลูร์ฟ กรุงปารีส
3.ย่านไทม์สแควร์ นครนิวยอร์ก
4.ถนนลาสรัมบลาส เมืองบาร์เซโลนา
5.เทพีเสรีภาพ นิวยอร์ก
6.บันไดสเปน กรุงโรม
7.ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
8.พีรามิด ประเทศอียิปต์
9.สะพานแบรนเดนเบิร์ก นครเบอร์ลิน
10.หอเอนปิซ่า ประเทศอิตาลี


                 

10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในประเทศไทย

อันดับที่  10  เกาะตะปู
เกาะตะปู ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คิดเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯตามลำคลองเกาะปันหยีจังหวัดพังงา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย อยู่ทางด้านเหนือในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน เกาะตะปู มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว รูปร่างคล้ายตะปู มีศัพท์เฉพาะทางธรณีวิทยาว่า เกาะหินโด่ง (Stack) การชมเกาะตะปูต้องชมในระยะไกลจากเรือ หรือจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน ไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้

อันดับที่ 9  เกาะเต่า
เกาะเต่า มีพื้นที่อยู่ในฝั่งของทะเลอ่าวไทย และอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะของ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เกาะเต่า จะมีลักษณะที่โค้งเว้า เหมือนกับเมล็ดถั่ว ซึ่งเกาะเต่า จะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี ระยะทางจากเกาะพงันถึงเกาะเต่า ประมาณสี่สิบห้ากิโลเมตร นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย  ในบริเวณใกล้เคียงกับเกาะเต่ายังมีเกาะนางยวนซึ่ง เป็นเกาะเล็กๆ ด้านตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า มีสันทรายเชื่อมต่อกับเกาะเต่าในลักษณะเหมือนทะเลแหวก เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังอีกแห่งหนึ่ง

อันดับที่ 8  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย
ในวันที 13 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2521 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้ประกาศให้ดอยอินทนนท์เป็นอุทยานแห่งชาติ

อันดับ 7 หัวหิน

หัวหิน เป็นอำเภอที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ  สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เดิมมีชื่อว่า "บ้านสมอเรียง" หรือ "บ้านแหลมหิน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้ทรงสร้างวังไกลกังวลเพื่อประทับพักผ่อนในฤดูร้อน และปัจจุบันวังไกลกังวลนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน

อันดับ 6 พัทยา
พัทยา หรือ เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษเขตหนึ่งที่ตั้งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ เมืองพัทยา ฉบับ วันที่ 29 พฤจิกายน พ.ศ. 2521 (เทียบเท่าเทศบาลนคร) ในเขตจังหวัดชลบุรี จัดเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย  เมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเฉพาะหาดทรายที่ ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล จัดได้ว่า
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย มีความสวยงามอีกแห่งของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งพัทยาแบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน

อันดับที่ 5 เกาะ ช้าง
เกาะ ช้าง เป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย  ที่เกาะที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต เกาะช้างมีโรงแรมและรีสอร์ตมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ และด้วยภูมิประเทศที่มีป่าเขาอยู่กลางเกาะ นักท่องเที่ยวจึงสามารถท่องเที่ยวแบบเดินป่า ขี่ช้างก็ได้เช่นกัน

อันดับ 4 เกาะสมุย
 เกาะสมุย  เดิมเกาะสมุยมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งปลูกมะพร้าว ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ชาวต่างประเทศนิยมเดินทางมาท่อง เที่ยว มีร้านค้า โรงแรม และสถานบันเทิงต่าง ๆ มากมาย หาดที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนเกาะสมุย คือ หาดเฉวง บริเวณชายหาดยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ถ้าได้ลงมือเดินตั้งแต่ต้นหาดจนกระทั่งถึงปลายหาดจะใช้เวลาประมาณถึง 2 ชั่วโมง เพราะการเดินบนผืนทรายไม่เหมือนการเดินบนพื้นดินปรกติ

หาดที่มีความสวยงามเป็นอันดับรองลงมา คือ หาดละไม หาดเชิงมนต์ แหลมโจรคร่ำ หาดท้องยาง หาดหน้าทอน หาดพังกา และหาดตลิ่งงาม นอกจากธรรมชาติที่สวยงามของอำเภอเกาะสมุยแล้ว ยังมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คือ "สปา" หรือการดูแลรักษาสุขภาพโดยการใช้น้ำบำบัด เช่น การอาบ-การแช่น้ำแร่หรือน้ำร้อน

อันดับ 3 หมู่เกาะพีพี
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้  สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย  เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีลักษณะสวยงามตามธรรมชาติ รอบ ๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติคือภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้น ๆ ถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย 40 ล้านปี ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 389.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 243,725 ไร่
อันดับที่ 2 หมู่เกาะสิมิลัน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ มีปะการังที่สวยงามหลายชนิด สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก สามารถพบปลาที่หายาก เช่น วาฬ โลมา ปลาไหลมอเร่(moray) ช่วงเดือนที่น่าเที่ยวมากที่สุด คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนเมษายน นอกจากนั้นจะประกาศปิดเกาะ

อันดับ 1 หาดป่าตอง
หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็น สถาน ที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย หาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาด สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด

หาด ป่าตองถูกถล่มโดยคลื่นสึนามิในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547ปัจจุบัน หาดป่าตองเป็นหนึ่งในชายหาดสำคัญที่ได้รับการติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิ มีการซักซ้อมการอพยพและการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอยู่อย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะๆ


                                                                                                        ที่มา    FWDMAIL
                                                                                                                                ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

10 ชายหาดทั่วโลกที่น่าไปเยือน

   หาดทรายขาว ๆ เม็ดละเอียด ๆ
เหยียบย่ำลงไปแล้วรู้สึกนุ่มสบายเท้า ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเคลิบเคลิ้ม ...
นี่คือสิ่งที่คุณก็สัมผัสได้ในการไปเยือน 10
ชายหาด จาก 10 ประเทศ ซึ่งได้ชื่อว่ามีชายหาดสวยน่าไปท่องเที่ยวสุด ๆ
แต่จะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย...


1. Las Islas Cies,
Galicia, Spain
    
        หากกล่าวถึงท้องทะเลที่สวยงามในประเทศสเปนแล้ว Las
Islas Cies เห็นจะเป็นอันดับหนึ่งที่ใคร ๆ ต่างนึกถึง
เพราะทะเลแห่งนี้ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นอัญมณีแห่งทะเลเมดิเตอริเนียน
ด้วยน้ำทะเลสีมรกต และหาดทรายสีขาวนุ่ม
คือความงดงามที่ยากจะหาคำบรรยายของท้องทะเลแห่งนี้
ซึ่งนี่ทำให้นักท่องเที่ยวคนแล้วคนเล่าประทับใจจนอยากจะกลับมาย่ำเท้าบนหาด
ทรายขาวอีกครั้ง และอีกครั้ง

          Las Islas Cies
หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ชายหาดแคริเบียน"
เป็นอุทยานแห่งชาติเก่าแก่ของประเทศสเปน
แต่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวไปพักผ่อนได้เฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น
หากใครได้มาเยือนที่นี่ คุณสามารถตั้งแคมป์เล็ก ๆ อยู่ท่ามกลางทิวสนสวย
และชื่นชมความงดงามแห่งท้องทะเลได้อย่างเต็ม ๆ ตาเลยล่ะ

 
2. อุทยานแห่งชาติ
Tayrona โคลัมเบีย
    อุทยานแห่งชาติ Tayrona
ชายหาดที่ทอดตัวยาวไปตามชายฝั่งแคริบเบียน ใกล้กับ Santa Marta โคลัมเบีย
เป็นอุทยานแห่งชาติติดทะเลที่ได้รับการยอมรับว่า
มีชายหาดงดงามมากที่สุดในอเมริกาใต้
ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวจากทิวทัศน์ทางทะเล
ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเก็บความสุขกลับไปเต็มกระเป๋าเลยทีเดียว

        
ชายหาดที่นี่มีเปลยวนให้เช่า
และเต๊นท์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะนอนพักค้างคืน
แถมยังโต้คลื่นได้อีกด้วย แต่ต้องระมัดระวังให้มาก
เพราะทะเลจะมีคลื่นสูงและแรง และสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ
การเช่าเปลยวนมานอนดูทะเลดาวตอนกลางคืนใต้ต้นปาล์ม
เปลี่ยนบรรยากาศจากทะเลสดใสให้เป็นทะเลสุดแสนโรแมน อ้อ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเยี่ยมชมวิถีชีวิตของชนพื้นเมือง
ที่นี่ก็มีไกด์ท้องถิ่นไว้บริการ

โดยจะพาคุณไปชมวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่รอบ ๆ อุทยานแห่งชาติ

3. Porto da Barra
บราซิล
    Porto da Barra ตั้งอยู่ใน Salvador
เมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศบราซิล
ที่ไม่เพียงแต่จะขึ้นชื่อด้านความงดงามของท้องทะเล
แต่ยังเป็นชายหาดที่เงียบสงบอีกด้วย ที่ทะเลแห่งนี้
คุณจะสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของชาวประมง หรือจะดำน้ำดูโลกใต้ทะเล
หรืออาจจะเล่นกีฬาชายหาดอย่างวอลเลย์บอลชายหาดได้ ยิ่งไปกว่านั้น
หากใครชื่นชอบเล่นน้ำทะเลล่ะก็ ที่นี่ดูจะเหมาะมาก ๆ
เพราะเป็นชายหาดที่คลื่นลมสงบ กระแสน้ำค่อนข้างนิ่ง
ปลอดภัยสำหรับการเล่นน้ำ

4. ชายหาดใน Palawan
ฟิลิปปินส์

 Palawan
นอกจากจะเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์แล้ว
ยังเป็นหมู่เกาะที่สวยงามที่สุดของฟิลิปปินส์อีกด้วย
เพราะมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่น่าสัมผัสมากมาย ได้แก่ ป่าฝน ปะการัง ถ้ำ
ความสมบูรณ์ของป่าโกงกาง และที่โดดเด่นที่สุดคือ
หาดทรายขาวสะอาดที่โอบล้อมด้วยน้ำทะเลสีเขียวบริสุทธิ์
และภาพพระอาทิตย์ดวงกลมโตในช่วงเวลาเย็นย่ำ
ที่จะทำให้คุณเก็บมันไว้ในความทรงจำไม่รู้ลืมเลยทีเดียว


5. เกาะแซนซีบาร์
แทนซาเนีย

   เกาะแซนซิบาร์ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย
เป็นเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่สวยงาม ด้วยทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า
ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ย่ำ
ทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบการนอนอาบแดดบนยิ่งนัก รวมถึงการดำน้ำดูปะการัง
อย่างไรก็ตาม นอกจาก เกาะแซนซิบาร์ จะมีความงดงามของหาดทรายขาวแล้ว
ยังมีฉายาว่า เกาะเครื่องเทศ เพราะเป็นแหล่งของเครื่องเทศมากมาย เช่น อบเชย
วานิลลา กระวาน พริกไทย และเครื่องเทศอื่น ๆ
ให้คุณได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากได้อีกด้วย


6. Arambol, Goa
อินเดีย
          Arambol กัว แห่งอินเดีย
นับเป็นชายหาดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบสงบ ๆ
ท่ามกลางวิถีชีวิตของชุมชนชาวกัว แม้หาดทรายจะไม่ละเอียด
และน้ำทะเลอาจไม่เขียวมรกตอย่างทะเลอันดามัน
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบเรียนรู้วิถีชีวิตแบบอินเดีย ๆ
ก็ไม่ควรพลาดกับหาดทรายเงียบสงบแห่งนี้




วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ประจำปี 2554

เทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ กรุงเทพมหานคร 
จำลองสงกรานต์ ๔ ภาค (ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้)
กิจกรรมสรงน้ำพระ การสาธิตการทำอาหารพื้นบ้าน การแสดงทางวัฒนธรรม ณ สวนนาคราภิรมย์ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๕ เมษายน ๒๕๕๔ เวลา ๑๐.๐๐ น.- ๒๐.๐๐ น. (พิธีเปิดงานในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๔)
กิจกรรมไหว้พระ ๙ วัดประจำรัชกาลและพระอารามหลวง
๑. วัดพระพระศรีรัตนศาสดาราม
๒. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
๓. วัดอรุณราชวราราม
๔. วัดกัลยาณมิตร
๕. วัดระฆังโฆสิตาราม
๖. วัดสุทัศเทพวราราม
๗. วัดบวรนิเวศวิหาร
๘. วัดสระเกศ
๙. วัดชนะสงคราม
๑๐. วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
๑๑. วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม
๑๒. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
๑๓. วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก

ระหว่างวันที่ ๙-๑๗ เมษายน ๒๕๕๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๘.๐๐ น. ผู้เข้าร่วมงานขอรับ
Passport เพื่อประทับตราครบทุกวัด สามารถขอรับของที่ระลึกได้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บริเวณด้านหน้าวิหารพระนอน กิจกรรมสงกรานต์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ (ชุมชนบางลำพู ถนนข้าวสาร ถนนพระอาทิตย์ สวนสันติชัยปราการวิสุทธิ์กษัตริย์)

โดย ททท. เน้นให้มีพื้นที่จัดงานประเพณีสงการนต์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ ดังนี้ 
- งานประเพณีสงกรานต์กรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- งานเทศกาลมหาสงกรานต์เมืองนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช

ข้อมูลเพิ่มเติม
www.songkran.net
                                                                                              อ้างอิง  http://thai.tourismthailand.org/

เอแบคโพลล์ชี้ข่าวสาวเปลือยอกสีลมสะท้อนสังคมไทยเสื่อมลงนานแล้ว



สำนักข่าวไทย  17 เม.ย.-นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ "ประชาชนคิดอย่างไรต่อข่าวเปลือยอก สงกรานต์ ถนนสีลม" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 1,134 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 16-17 เมษายน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.3 ทราบข่าวเปลือยอกสงกรานต์ถนนสีลม และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.8 ระบุสังคมไทยเสื่อมทรามลงมานานแล้ว โดยร้อยละ 74.9 ระบุผู้ใหญ่ในสังคมไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้เห็น ร้อยละ 71.7 ระบุวัยรุ่นทำตัวไม่ดีเอง และร้อยละ 56.2 ระบุเด็กไม่ดีตั้งแต่อยู่ในครอบครัว  อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.9 ยังรู้สึกเป็นห่วงต่ออนาคตของลูกหลานของตนเองในสังคมไทย โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.6 เห็นด้วยที่ต้องเพิ่มโทษให้ผู้กระทำผิดศีลธรรมและกฎหมายบ้านเมืองในเรื่อง ลามก อนาจาร ร้อยละ 88.7 เห็นด้วยต้องเพิ่มโทษผู้ที่นำภาพลามกอนาจารแพร่ในสื่อต่าง ๆ ร้อยละ 83.7 เห็นด้วยต้องเพิ่มโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.5 เห็นด้วยต้องเพิ่มโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรับผิดชอบพื้นที่ชุมชนที่เกิดเหตุตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย


                                                                                          อ้างอิง สำนักข่าวไทย MCOT

รมว.วธ.ขออัยการสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องคลิปเปลือยอกสงกรานต์บำเพ็ญประโยชน์





                        สำนักข่าวไทย  17 เม.ย.-รมว.วัฒนธรรม ขออัยการสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องคลิปเปลือยอกงานสงกรานต์ถนนสีลม บำเพ็ญประโยชน์  นอกจากเสียค่าปรับข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ พร้อมเผยพบอีก 1 ราย สาวประเภทสองเปลือยอก ที่จ.พิจิตร และขอให้ตำรวจดำเนินคดีโดยไม่ต้องรอผู้ไปแจ้งความ  ซึ่ง ผบ.ตร.เผยสั่งการตำรวจท้องที่ดำเนินคดีแล้ว

นายนิพิฏฐ์  อินทรสมบัติ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงกรณีคลิปสาวเปลือยอกเต้นในการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนสีลมว่า สะเทือนความรู้สึกของผู้ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม  สำหรับตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อยากให้นโยบายว่าเรื่องนี้ตำรวจต้องให้ความสำคัญ เพราะทำลายชื่อเสียงของประเทศ  การดำเนินคดีแม้ไม่มีผู้เสียหายไปแจ้งความ  ก็ต้องดำเนินการหรือหากจะรอ ตนก็พร้อมจะเป็นคนไปแจ้งความตำรวจเพื่อดำเนินคดีในเรื่องนี้ ในความผิดอาญา ข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ นอกจากนี้ขอให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่เฉพาะคนเต้นเท่านั้น  ทั้งเจ้าของสถานที่  คนสนับสนุนเปิดเวทีมาตั้งในงาน  และมีการนำเครื่องเสียงมาเปิด หรือคนที่สนับสนุนนำรางวัลไปให้ขณะเต้นอยู่ โดยให้ตำรวจดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้ใช้และสนับสนุน อย่างน้อย 10 คน ขึ้นไป

นายนิพิฏฐ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อคดีถึงขั้นอัยการ ขอว่าอย่าสั่งฟ้องเพียงแค่ปรับเท่านั้น ขอศาลเป็นกรณีพิเศษ ให้ผู้กระทำผิดไปบำเพ็ญประโยชน์  ที่เกี่ยวเนื่องกับงานวัฒนธรรม เช่น ไปอ่านหนังสือให้เด็กอนุบาลหรือนักเรียนฟังหน้าเสาธง เกี่ยวกับเรื่องประเพณีสงกรานต์  อย่างน้อย 3 ครั้งเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  กล่าวอีกว่า จากการให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศติดตามการเล่นน้ำสงกรานต์  มีรายงานเข้ามาว่าปัญหาที่พบรุนแรง 2 กรณีคือ ที่จังหวัดพิจิตร มีสาวประเภทสอง เดินออกมาเดินเปลือยอก  บริเวณร้านเสริมสวย  ซึ่งเป็นร้านของสาวประเภทสองโดยเฉพาะ ก็ได้ประสานไปยังตำรวจท้องที่ ให้ดำเนินคดี และดูแลเรื่องนี้แล้ว  และอีกรายที่ถนนสีลม  ได้ประสานไปยังตำรวจพื้นที่ ดำเนินคดี  โดยไม่ต้องรอให้มีผู้ไปแจ้งความ 

ด้านพล.ต.อ.วิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ดำเนินการทางกฎหมาย ด้วยการดำเนินคดีข้อหากระทำอนาจาร  กับบุคคลดังกล่าวแล้ว รวมถึงให้ดูด้วยว่าสามารถดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่ให้การสนับสนุนหรือกลุ่มบุคคลที่เชียร์ให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าว และดูด้วยว่ามีเรื่องปัญหาเยาเสพติดหรือไม่. -สำนักข่าวไทย


                                                                                       อ้างอิง  สำนักข่าวไทย MCOT